ลักษณะของมันเทศ
ก.ค.
ต้นมันเทศ มีถิ่นกำเนิดในบริเวณเขตร้อนของทวีปอเมริกา โดยจัดเป็นไม้ล้มลุกเลื้อยพันมีอายุหลาย มีความยาวได้ถึง 5 เมตร มีน้ำยางสีขาว ลำต้นทอดเลื้อย มีรากสะสมอาหารมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก รากมันเทศมีระบบรากเป็นแบบรากฝอย ซึ่งจะเกิดจากข้อของลำต้นที่ปลูก หรือเกิดจากลำต้นที่ทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน รากมันเทศจะเป็นที่สะสมอาหาร และสามารถใช้รับประทานได้ เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยระบายน้ำดี และชอบแสงแดดจัด โดยพืชที่อยู่ในวงศ์นี้จะพบได้มากในแถบเส้นศูนย์สูตรและภายใต้แถบศูนย์สูตร ส่วนในประเทศไทยมีปลูกกันทั่วไป แต่ส่วนใหญ่แหล่งปลูกจะเป็นจังหวัดในภาคกลาง โดยจังหวัดที่ปลูกมันเทศมาก ได้แก่ เชียงใหม่ เลย นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม เพชรบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา และตรัง[
หัวมันเทศ มันเทศจะลงหัวในระดับความลึกไม่เกิน 9 นิ้วโดยหัวของมันเทศจะเกิดจากการขยายตัวของราก ซึ่งเนื้อเยื่อภายในรากที่เรียกว่า “พาเรนไคมา” (Parenchyma) เป็นส่วนที่สะสมแป้ง รากที่ขยายตัวเป็นหัวขึ้นมา อาจจะเกิดจากรากของลำต้นที่ใช้ปลูก หรืออาจเกิดจากรากที่เกิดจากข้อของลำต้นที่เลื้อยทอดไปตามพื้นดินก็ได้ ดังนั้นต้นมันเทศหนึ่งต้นอาจจะมีหัวได้หลายหัว หรือมากกว่า 50 หัว โดยลักษณะของหัวส่วนมากจะมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก หัวเรียว ท้ายเรียว ส่วนตรงกลางป่องออก และสีผิวของหัวและสีของเนื้อในหัวจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยอาจจะเป็นสีแดง สีเหลือง สีขาว หรือสีนวล และมักจะมีรากแขนงเกิดในร่องของหัว ผิวของหัวอาจจะเรียบหรือขรุขระ หัวมันเทศนอกจากจะให้อาหารจำพวกแป้งแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ (โดยเฉพาะในหัวสีเหลือง) วิตามินบี และวิตามินซีอีกด้วย[
ใบมันเทศ มันเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับบนข้อของลำต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กว้างแกมรูปโล่ ใบจะมีขนาดและรูปร่างต่างกัน แม้จะอยู่ในต้นเดียวกันก็ตาม เพราะบางใบอาจมีขอบใบเรียบ บางใบอาจเป็นรูปหัวใจ หรือบางใบจะมีหลายแฉก โดยปกติแล้วขอบใบจะเว้าลึกเป็นแฉก 3-7 แฉก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3-11 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-15 เซนติเมตร ผิวใบเรียบหรือมีขนเล็กน้อย และมักจะมีสีม่วงตามเส้นใบ ก้านใบอาจยาวหรือสั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
ดอกมันเทศ ต้นที่ปลูกในเขตอบอุ่นมักจะไม่มีดอก ส่วนต้นที่ปลูกในเขตร้อนจะออกดอก แต่มักจะไม่ติดเมล็ด ออกดอกเป็นช่อ โดยดอกจะออกตามซอกใบ มีก้านช่อดอกแข็งแรง ซึ่งมักจะยาวกว่าก้านใบ โดยมีความยาวประมาณ 3-18 เซนติเมตร เป็นสัน เกลี้ยงหรือมีขน ส่วนก้านดอกยาวประมาณ 3-12 มิลลิเมตร มีดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกเป็นสีชมพูปนสีม่วง มีกลีบดอก 5 กลีบ โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ยาวประมาณ 3-4.5 เซนติเมตร มีลักษณะคล้ายกับดอกผักบุ้ง ดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน กลีบดอกนอกยาว 7-12 มิลลิเมตร ปกติแล้วกลีบจะแยกจากกันอย่างอิสระหรืออาจจะเชื่อมกันที่โคน ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน และแยกจากกันอย่างอิสระ ก้านชูอับเกสรเพศผู้จะเรียกว่า ก้านอับเกสร โดยจะมีความยาวไม่เท่ากันและเชื่อมติดกันอยู่กับฐานของกลีบดอก ส่วนรังไข่มี 2 ส่วน บางดอกอาจมี 4 ส่วน ในแต่ละส่วนจะมีไข่ 1-2 ที่รับละอองเกสรเพศผู้ มี 2 แฉกอยู่ที่ก้าน เชื่อมติดกับรังไข่
ผลมันเทศ ผลแห้งและแตกได้แบบไม่เป็นระเบียบ ผลมีเปลือกแข็งหุ้ม ลักษณะของผลเป็นแบบแคปซูล มีช่อง 4 ช่อง หรือน้อยกว่านั้น ภายในเปลือกแข็งจะมีเมล็ดขนาดเล็กสีดำ ลักษณะของเมล็ดค่อนข้างแบน ด้านหนึ่งของเมล็ดจะเรียบ ส่วนอีกด้านจะเป็นเหลี่ยม โดยทางด้านเรียบจะเห็นรอยที่เมล็ดติดกับผนังรังไข่ที่เรียกว่า “ไฮลัม” (Hilum) และมีรูเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ไมโครไพล์” (Micropyle) ส่วนเปลือกของเมล็ดค่อนข้างหนาและน้ำซึมผ่านได้ยาก
ที่มา : http://frynn.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/